น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย
เชิญชมนิทรรศการเทิดพระเกียรติ
และอุดหนุนผลิตภัณฑ์โครงการส่งเสริมอาชีพ ตามพระราชดำริ
และผลิตภัณฑ์น้อมเกล้าฯ ถวาย
ในงานกาชาด วันที่ 11-21 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ณ สวนลุมพินี

ร้านอุปนายิกา จัดตั้งและเปิดดำเนินการเป็นครั้งแรกในงานกาชาดประจำปี 2541 (วันที่ 27 มีนาคม-4 เมษายน พ.ศ.2541) ณ สวนอัมพร ตามพระราชดำริ ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี องค์อุปนายิกาสภากาชาดไทย ด้วยมีพระราชประสงค์ให้ร้านอุปนายิกาเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของกลุ่มประชาชนในพื้นที่ทรงงานที่ทุรกันดารห่างไกล เพื่อให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ในงานกาชาดทุกๆ ปี ร้านอุปนายิกาจึงเป็นช่องทาง เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในโครงการ รวมทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายในราคาย่อมเยา

ร้านอุปนายิกาดำเนินการโดยโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย

ผลิตภัณฑ์แนะนำ


ผลิตภัณฑ์ผ้าทอปกาเกอะญอ
กลุ่มทอผ้าปกาเกอะญอย้อมสีธรรมชาติบ้านขุนอมแฮดนอก

กลุ่มทอผ้าปกาเกอะญอย้อมสีธรรมชาติบ้านขุนอมแฮดนอก ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 บ้านขุนอมแฮดนอก ตำบลแม่หลอง อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าร่วมโครงการส่งเสริมอาชีพ ตามพระราชดำริ เมื่อปี 2545 สมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวปกาเกอะญอ ที่มีการทอผ้าสืบทอดจากบรรพบุรุษ เพื่อใช้เป็นเครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวัน และใช้ในงานประเพณีต่างๆ โดยใช้เครื่องทอมือ “กี่เอว” ขั้นตอนการทำต้องใช้ความประณีต ตั้งแต่การนำฝ้ายแต่ละเส้นมาย้อมสีจนถึงการทอผ้าให้เป็นลวดลายต่างๆ เป็นเอกลักษณ์ที่สืบทอดกันมาโดยได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่พบเห็น และมีการเลือกใช้สีจากธรรมชาติ อาทิ เปลือกไม้ ใบไม้ และสมุนไพรที่มีในท้องถิ่น

ปัจจุบันกลุ่มได้พัฒนาผ้าทอเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้มีความหลากหลาย ตามความต้องการของตลาดมากขึ้น อาทิ กระเป๋าสะพาย ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ เสื้อคลุมปกาเกอะญอ และเสื้อแขนกุด จำหน่ายผ่านร้านภูฟ้า และในชุมชน ทำให้สมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีความมั่นคงทางรายได้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ พร้อมกับอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาของท้องถิ่นต่อไป

แม้หวังตั้งสงบ จงเตรียมรบให้พร้อมสรรพ

นับจากเกิดเหตุการณ์การสู้รบบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชาตั้งแต่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยโดยเฉพาะผลกระทบต่อการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของเด็กที่ต้องหยุดชะงัก และได้พระราชทานแนวทางและความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สถานศึกษามีพื้นที่ปลอดภัย สามารถจัดการเรียนการสอนได้ และที่สำคัญคือเป็นขวัญกำลังใจให้แก่คณะครูและนักเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัย

และเมื่อเกิดเหตุการณ์การสู้รบขึ้นอีกครั้ง ตั้งแต่ 7 ธันวาคม 2568 เป็นต้นมา ทำให้โรงเรียนในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องปิด ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนจำเป็นต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว แต่ในครั้งนี้ครูตำรวจตระเวนชายแดนทุกนายมีแผนรองรับอย่างชัดเจน ทำให้มีความพร้อม สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เด็กนักเรียนได้ทันที ณ ศูนย์พักพิง ส่งผลให้การเรียนการสอนและการพัฒนาศักยภาพของนักเรียนดำเนินต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง และยังช่วยลดภาวะความเครียดหรือความหวาดกลัวที่อาจเกิดขึ้นได้จากเหตุการณ์รุนแรงในครั้งนี้ด้วย

กองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร

ในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ รัฐบาลได้จัดตั้ง “กองทุนพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร” น้อมเกล้าฯ ถวาย เพื่อทรงใช้ดอกผลของกองทุนนี้ในการทรงงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  ได้พระราชทานทุนทรัพย์เริ่มต้น 13 ล้านบาท และเชิญชวนภาครัฐ เอกชนและประชาชนเข้ามามีส่วนในการสนับสนุนการดำเนินโครงการตามพระราชดำริด้วย

หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด : 2625604
จำนวนผู้เข้าชมวันนี้ : 558
จำนวนผู้เข้าชมเดือนนี้ : 261468