สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ ประจำปี 2564 และทรงบรรยายพิเศษ เรื่อง การพัฒนาเด็กและเยาวชนหลังโควิด 19 ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 24 ธันวาคม 2564 เวลา 09.30 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2564 “41 ปี ด้วยพระเมตตาแห่งการศึกษา พัฒนาวิชาการ-จริยธรรม งาน กพด.” ณ ศูนย์กีฬาเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมทั้งที่ปรึกษางานโครงการตามพระราชดำริฯ หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ
โอกาสนี้ทรงบรรยายพิเศษเรื่อง การพัฒนาเด็กและเยาวชนหลังโควิด 19 ซึ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทรงมีความห่วงใยเด็กและเยาวชนด้านการศึกษา นักเรียนไม่สามารถมาเรียนได้ตามปกติ โดยทรงใช้หลักการพัฒนาศักยภาพอย่างสมดุล 4 ด้าน คือ พุทธิศึกษา จริยศึกษา หัตถศึกษา พลศึกษา มาช่วยในการพัฒนาเด็กและเยาวชน พร้อมทั้งพระราชทานความช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบในด้านต่างๆ อาทิ ถุงยังชีพเพื่อการศึกษา มีอุปกรณ์การเรียน สื่อ 60 พรรษา พร้อมทั้งหนังสือให้นักเรียนได้อ่านทบทวนความรู้ พระราชทานอุปกรณ์ประกอบการเรียนผ่านระบบออนไลน์ อาทิ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คให้แก่นักเรียนที่ประสบปัญหาการเรียนออนไลน์ ทำให้นักเรียนสามารถเรียนได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการจัดบริการอาหารกลางวันใส่ปิ่นโตพระราชทานพร้อมนมผง ให้คุณครูนำไปแจกจ่ายให้แก่นักเรียนได้รับประทานในช่วงปิดภาคเรียน ทำให้เด็กไม่ขาดสารอาหารและมีภาวะโภชนาการที่ดี พระราชทานหนังสือเรียนระดับมัธยมศึกษาให้นักเรียนที่ได้รับทุนการศึกษาพระราชทาน ได้อ่านประกอบการเรียนผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งพระราชทานเจลแอลกอฮอล์ หน้ากากอนามัย ให้แก่โรงเรียน เพื่อใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เป็นต้น นอกจากนี้ยังทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ออนไลน์ เพื่อรับทราบปัญหา พร้อมทั้งพระราชทานความช่วยเหลือโรงเรียน และยังทรงส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะด้านการประกอบอาชีพ ควบคู่กับการปลูกฝังให้เด็กมีคุณธรรมและจริยธรรม ซึ่งตลอดการทรงงานด้านการพัฒนาเด็กและเยาวชน เป็นเวลา 41 ปี ส่งผลทำให้เด็กและเยาวชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งด้านโภชนาการและสุขภาพอนามัย การได้รับโอกาสทางการศึกษาที่ดีขึ้น มีทักษะทางด้านงานอาชีพ และมีคุณธรรมและจริยธรรมในการดำเนินชีวิต โอกาสนี้มีพระราชดำรัสสรุปผลการพัฒนาเด็กและเยาวชนด้านการศึกษาความตอนหนึ่งว่า “ต้องใช้รูปแบบหลากหลายผสมกันไปกับการใช้หนังสือและเทคโนโลยี และต้องมีคุณธรรมจริยธรรม ผู้เป็นครูต้องศึกษาหาวิธีการสอนใหม่ๆ ให้ทันต่อสถานการณ์ เพื่อให้เด็กมีความสามารถด้านต่างๆ ปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งมีทักษะอาชีพ สามารถสร้างชุมชนและร่วมกันพัฒนาประเทศชาติต่อไป”
จากนั้นพระราชทานเกียรติบัตรแก่พระภิกษุ และคณะครู ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดแข่งขันแนวปฏิบัติที่ดี ทั้ง 6 ด้าน จำนวน 51 ราย พร้อมทั้งพระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติ ชั้นที่ 1 แก่ผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ จำนวน 32 ราย ทอดพระเนตรนิทรรศการผลงานแนวปฏิบัติที่ดีของหน่วยงานสถานศึกษาในโครงการตามพระราชดำริ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งนิทรรศการการจัดการเรียนการสอนในยุค New Normal
โดยการจัดการประชุมวิชาการฯ ครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 7 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-25 ธันวาคม 2564 เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจด้านการศึกษาและการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ แก่สาธารณชน รวมทั้งบุคลากรทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดประสบการณ์ร่วมกัน เพื่อพัฒนาแนวคิดและร่วมกันดำเนินงานให้บรรลุผลตามเป้าหมาย โดยมีสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หน่วยงานสถานศึกษาในโครงการตามพระราชดำริ ทั้ง 7 หน่วยงาน และโครงการส่วนพระองค์สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ร่วมกันดำเนินการจัดงานในครั้งนี้