วันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 เวลา 13.25 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ของ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยในปี 2515 อาจารย์วรณี สุนทรเวช อาจารย์จากโรงเรียนดาราคาม กรุงเทพฯ ได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างอาคารเรียนจำนวน 1 หลัง พร้อมบ้านพักครู และร่วมกับคณะครูอาจารย์และนักเรียนโรงเรียนดาราคามมาทำการก่อสร้างโรงเรียนร่วมกับหน่วยงานตำรวจตระเวนชายแดนจนแล้วเสร็จ ต่อมาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงรับไว้ในพระอุปถัมภ์และพระราชทานนามโรงเรียนว่า “โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสุนทรเวช” ปัจจุบันเปิดสอนระดับชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 223 คน ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โรงเรียนสามารถจัดการเรียนการสอนได้ตามปกติ

โอกาสนี้ทรงรับฟังครูใหญ่กราบบังคมทูลผลการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ รวมทั้งสถานการณ์น้ำอุปโภคบริโภคซึ่งมีเพียงพอตลอดทั้งปี การนี้ทอดพระเนตรกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน กิจกรรมห้องพยาบาลของโรงเรียน ซึ่งร่วมกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านกองม่องทะ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยบุคลากรครูของโรงเรียนได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้วทุกคน และนักเรียนอายุ 12 ปี ได้รับวัคซีนแล้วบางส่วน นอกจากนี้โรงเรียนยังได้จัดการเรียนการสอนนักเรียนชั้นอนุบาล ให้รู้จักการป้องกันโรคโควิด 19 ด้วย

ด้านการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา ในปีการศึกษา 2563 ผลการประเมิน O-NET ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ มีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าระดับประเทศ การนี้ทอดพระเนตรการสอนวิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ให้เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษจากส่วนต่างๆ ของร่างกาย ส่วนนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ มีนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาและอุดมศึกษา จำนวน 11 คน และสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง และปริญญาตรี จำนวน 17 คน

สำหรับกิจกรรมห้องสมุด มีกิจกรรมส่งเสริมให้นักเรียนรักการอ่าน ด้วยกิจกรรมสุดยอดนักอ่านตัวจิ๋ว พี่เล่านิทานให้น้องฟัง และหาคำศัพท์ในหนังสือ

ด้านการส่งเสริมวิชาชีพนักเรียน ฝึกให้นักเรียนบำรุงรักษาและติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ สำหรับการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น มีกิจกรรมทอผ้ากะเหรี่ยงและทำผลิตภัณฑ์จักสานจากไม้ไผ่ โดยมีครูภูมิปัญญาท้องถิ่นมาช่วยสอน โรงเรียนได้น้อมนำพระราชกระแสให้นักเรียนฝึกทอผ้าลวดลายที่ยากขึ้น โดยฝึกให้นักเรียนทอผ้าที่มีลวดลายสวยงามมากขึ้น เช่น ลายข้าวโพดได้

การนี้ทอดพระเนตรการประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันและอาหารเสริมนม และโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งโรงเรียนดำเนินกิจกรรมให้นักเรียนลงมือฝึกปฏิบัติในการปลูกผัก ไม้ผล เพาะเห็ดนางฟ้า เลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ และเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ รวมทั้งนำผลผลิตทางการเกษตรที่ได้มาให้นักเรียนฝึกแปรรูปถนอมอาหารเป็นเค้กกล้วยหอมนึ่ง กล้วยหอมเชื่อมและหน่อไม้ดอง ทำให้นักเรียนมีทักษะด้านงานอาชีพ โรงเรียนยังมีศูนย์บริการความรู้ ให้แก่คนในชุมชน อาทิ เรื่องการเพาะเห็ด การเลี้ยงไก่พันธุ์ไข่ การขยายพันธุ์พืช การควบคุมโรคขาดสารไอโอดีน รวมทั้งฝึกการทำบัญชีครัวเรือน นอกจากนี้ยังได้นำกล้าพันธุ์ผักไปแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้านนำไปปลูกไว้บริโภคในครัวเรือนด้วย