Slide

23 กันยายน 2567

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพลตำรวจเอกสมศักดิ์ แขวงโสภา (บ้านทุ่งสบายใจ) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567 เวลา 14.40 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพลตำรวจเอกสมศักดิ์ แขวงโสภา (บ้านทุ่งสบายใจ) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ปัจจุบันเปิดทำการสอนชั้นอนุบาล ถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 89 คน สังกัดกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 โดยทรงติดตามการดำเนินงานของโรงเรียนนี้เป็นครั้งที่ 8 และในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 1,118 ที่เสด็จฯ ทรงเยี่ยมโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน

โอกาสนี้ทรงเปิดแพรคลุมป้ายชื่อโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพลตำรวจเอกสมศักดิ์ แขวงโสภา (บ้านทุ่งสบายใจ) เดิมชื่อโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านทุ่งสบายใจ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนพลตำรวจเอกสมศักดิ์ แขวงโสภา (บ้านทุ่งสบายใจ) ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของพลตำรวจเอกสมศักดิ์ แขวงโสภา อดีตผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และที่ปรึกษางานโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ปฏิบัติหน้าที่สนองงานโครงการตามพระราชดำริมาอย่างยาวนาน สร้างคุณประโยชน์นานัปการให้แก่หน่วยงานและประเทศชาติ

ในการนี้พระราชทานเข็มเชิดชูเกียรติ ชั้นที่ 1 แก่ผู้สนับสนุนงานโครงการตามพระราชดำริ 26 คน และทรงรับฟังครูใหญ่ถวายรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการตามพระราชดำริ ด้านภาวะโภชนาการของนักเรียนส่วนใหญ่มีภาวะโภชนาการตามเกณฑ์ ด้านการส่งเสริมคุณภาพการศึกษา โรงเรียนมีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ กำลังศึกษาอยู่ 14 คน ส่วนศิษย์เก่า มีสมาชิก 272 คน ได้กลับมาช่วยพัฒนาสภาพแวดล้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ของโรงเรียน สำหรับคะแนนเฉลี่ยของผลการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2566 สาระวิชาวิทยาศาสตร์ คะแนนสูงกว่าระดับประเทศ

ด้านการส่งเสริมทักษะวิชาชีพ มีปราชญ์ชาวบ้าน มาช่วยสอนนักเรียนจักสานโคระด้วยใบมะพร้าว ซึ่งเป็นเครื่องจักสานภูมิปัญญาท้องถิ่นของภาคใต้ ใช้ห่อผลไม้ ขนุนและจำปาดะ ป้องกันแมลงวันผลไม้และหนอนชอนไชทำความเสียหาย รวมทั้งสอนจักสานกระเป๋าจากซองกาแฟ การซ่อมพัดลม และการประกอบคอมพิวเตอร์ ทำให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันและมีพื้นฐานการประกอบอาชีพ ส่วนกิจกรรมสหกรณ์นักเรียน ส่งเสริมนักเรียนให้มีทักษะด้านการขายสินค้า จดบันทึกบัญชีรับ-จ่าย และทำบัญชีต้นกล้าเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อส่งเสริมการประหยัดอดออมและวางแผนการใช้จ่าย

ส่วนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน นักเรียนลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ทั้งการปลูกผักสวนครัว ถั่วเมล็ดแห้ง เพาะเห็ดนางฟ้า ปลูกไม้ผล เลี้ยงไก่ไข่ และเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์ ผลผลิตเพียงพอต่อความต้องการ นำไปประกอบอาหารให้นักเรียนรับประทานตามหลักโภชนาการ และจำหน่ายในชุมชน โรงเรียนยังมีอาคารเกษตรสิริสุข ใช้ในกิจกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร โดยมีแม่บ้านรวมกลุ่มกัน ช่วยฝึกสอนนักเรียนทำเครื่องแกงตำมือ ใช้ปรุงอาหารในโรงเรียนและภายในครัวเรือน นอกจากนี้ยังสอนทำกล้วยกรอบแก้ว ทำให้นักเรียนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดสร้างรายได้ ขยายผลสู่ชุมชน โดยแจกกล้าพันธุ์ผักให้ผู้ปกครองนักเรียนไว้ปลูกบริโภคในครัวเรือน เพื่อลดรายจ่าย ส่งเสริมความรู้เรื่องการรักษาความสะอาดในครัวเรือนและชุมชน และการทำบัญชีครัวเรือน อีกทั้งยังมีฐานการเรียนรู้การเกษตรให้ประชาชนที่สนใจมาศึกษาดูงาน นำความรู้ไปใช้ทำอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ 

โอกาสนี้ทรงเยี่ยมหน่วยแพทย์พระราชทาน และหน่วยทันตกรรมพระราชทาน ซึ่งมีแพทย์และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลสะเดา และโรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ออกหน่วยให้บริการแก่นักเรียนและประชาชนด้วย