Slide

13 พฤศจิกายน 2567

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2567 “44 ปี พระเมตตา พัฒนาการศึกษา รักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญา รากฐานความมั่นคงของชาติ” ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร 

วันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 เวลา 09.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการประชุมวิชาการการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2567 “44 ปี พระเมตตา พัฒนาการศึกษา รักษ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญา รากฐานความมั่นคงของชาติ” ณ หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพมหานคร โดยมี พล.ต.อ. กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งที่ปรึกษางานโครงการตามพระราชดำริฯ หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการ เฝ้าฯ รับเสด็จ สำหรับการประชุมวิชาการครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 10 ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 มีกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับหน่วยงานสถานศึกษาภายใต้โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันการ ตามพระราชดำริฯ โดยมีบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปฏิบัติงานโครงการตามพระราชดำริ เข้าร่วมการประชุม จำนวน 1,500 คน

โอกาสนี้พระราชทานเกียรติบัตรแก่พระภิกษุ และคณะครู ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดแข่งขันแนวปฏิบัติที่ดี ทั้ง 9 ด้าน จำนวน 59 ราย จากนั้นมีพระราชดำรัสเปิดการประชุม ความว่า

“ข้าพเจ้ายินดีที่ได้มาเป็นประธานในการประชุมวิชาการ การพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารตามพระราชดำริฯ ประจำปี 2567 ซึ่งมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา การสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดารได้รับการศึกษา และสามารถใช้ความรู้สร้างประโยชน์ให้แก่ตนเอง ครอบครัว เพื่อนมนุษย์ อีกทั้งเป็นกำลังช่วยสร้างสรรค์พัฒนาท้องถิ่นของตน ตลอดจนสังคมส่วนรวม

ข้าพเจ้าปฏิบัติงานพัฒนาด้านการศึกษามากว่า 44 ปี ได้เห็นและเข้าใจบทบาทของครูว่ามีความสำคัญต่อชีวิตของเด็กนักเรียนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูในพื้นที่ทุรกันดาร ที่เป็นผู้อบรมสั่งสอนนักเรียนทั้งในด้านวิชาการและการดำรงชีวิต และยังบริการชุมชนทุกด้านเท่าที่จะทำได้ เป็นครูที่เป็นแบบอย่างที่ควรยกย่อง ข้าพเจ้าจึงยินดีสนับสนุนและส่งเสริมครูอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่

ขอให้ผู้ปฏิบัติงานพัฒนาเด็กและเยาวชนทุกหน่วยงาน ได้ร่วมมือร่วมใจกันในงานพัฒนาการศึกษา ช่วยกันสร้างทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ เพื่อเสริมความเข้มแข็งให้แก่ชาติบ้านเมือง ทั้งขออวยพรให้ทุกท่านที่มาร่วมการประชุม ประสบความสุขความสำเร็จโดยทั่วกันตลอดไป”

จากนั้นทอดพระเนตรการนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดีด้านวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของสถานศึกษาในโครงการตามพระราชดำริฯ 7 หน่วยงาน ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมส่งเสริมการเรียนรู้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น พร้อมกันนี้ทอดพระเนตรนิทรรศการ “วัฒนธรรมและภูมิปัญญา รากฐานความมั่นคงของชาติ” และนิทรรศการนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริฯ ของหน่วยงานสนับสนุน 11 หน่วยงาน ได้แก่ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมพัฒนาที่ดิน กรมอนามัย กรมควบคุมโรค กรมสุขภาพจิต กรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ด้วย